วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560
สังขยาฟักทอง
สังขยาฟักทอง
ส่วนผสม สังขยาฟักทอง
ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
ไข่ไก่ 8 ฟอง
น้ำตาลปี๊บ 100-200 กรัม (ปรับเพิ่ม-ลดตามชอบ)
หัวกะทิ 1 ถ้วย
ฝอยทอง (สำหรับหยอดหน้า)
วิธีทำสังขยาฟักทอง
1. ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ออกจนหมดแล้วนำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้
2. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองผ่านตะแกรง จากนั้นเทใส่ลงในผลฟักทอง โรยฝอยทองด้านบน
3. ใส่ลูกฟักทองลงชามกระเบื้องขนาดพอดีกัน จากนั้นนำไปนึ่งชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30-40 นาที หรือจนฟักทองสุก ยกออกจากชุดนึ่ง พักไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น พร้อมรับประทาน
วิธีทำสังขยาฟักทอง
เครปโรลฝอยทอง
เครปโรลฝอยทอง
ส่วนผสม เครปโรลฝอยทอง
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• นมสด 300 กรัม
• เนยละลาย 60 กรัม
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 130 กรัม
• วิปปิ้งครีม 200 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
• ฝอยทอง
วิธีทำเครปโรลฝอยทอง
• ตีไข่ไก่พอแตก ใส่นม เนยละลาย เกลือ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
• กรอง 1 รอบ ให้เนียน
• ตั้งกระทะเตรียมทอด ทาเนยบาง ๆ ก่อนทอด ทอดด้วยไฟอ่อน
• ทอดเสร็จแล้ว พักไว้ให้เย็น
• ใช้ตะกร้อมือตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟู
• วางแป้งแล้วใส่วิปครีมเยอะ ๆ ใส่ฝอยทอง แล้วห่อง่าย ๆ พับด้านข้างแล้วม้วนไปจนสุด
• ไข่ไก่ 4 ฟอง
• นมสด 300 กรัม
• เนยละลาย 60 กรัม
• เกลือ 1/2 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
• กลิ่นวานิลลา
• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 130 กรัม
• วิปปิ้งครีม 200 กรัม
• น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
• ฝอยทอง
วิธีทำเครปโรลฝอยทอง
• ตีไข่ไก่พอแตก ใส่นม เนยละลาย เกลือ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี
• กรอง 1 รอบ ให้เนียน
• ตั้งกระทะเตรียมทอด ทาเนยบาง ๆ ก่อนทอด ทอดด้วยไฟอ่อน
• ทอดเสร็จแล้ว พักไว้ให้เย็น
• ใช้ตะกร้อมือตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟู
• วางแป้งแล้วใส่วิปครีมเยอะ ๆ ใส่ฝอยทอง แล้วห่อง่าย ๆ พับด้านข้างแล้วม้วนไปจนสุด
วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560
วุ้นชวนอุ่นใจ
วุ้น
1. วุ้นลูกแก้วผลไม้สด
ผงวุ้นที่ซื้อเก็บไว้ก็เอามาทำวุ้นน้ำเขียว วุ้นน้ำแดง รวมถึงวุ้นแมงลักไปหลายคราแล้ว ถ้าหากวันนี้ว่าง ๆ ลองเปลี่ยนแนวมาทำเมนูวุ้นลูกแก้วผลไม้สดสูตรจากคุณ Rin's Cookbook (#rinscookbook)จุดเด่นคือ ใส่ผลไม้สดลงไปในเนื้อวุ้นลูกกลม ๆ กินเปล่า ๆ ก็เพลินดี หรือจะราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานลงไปก็เก๋ค่ะ ผลไม้พร้อม ผงวุ้นพร้อม แต่ผู้ช่วยล่ะ ขอตัวไปงัดคุณแฟนขึ้นมาจากเตียงก่อนนะคะ
ส่วนผสม วุ้นลูกแก้วผลไม้สด
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย + 3/4 ถ้วย
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• กลิ่นผลไม้ เช่น กลิ่นสตรอว์เบอร์รี (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 2-3 หยด
• น้ำเชื่อม หรือน้ำหวาน (ตามชอบ)
อุปกรณ์
• พิมพ์ลูกบอลกลม (หาซื้อตามร้านขายสินค้าญี่ปุ่น)
วิธีทำวุ้นลูกแก้วผลไม้สด
• 1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ โรยผงวุ้นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
• 2. นำหม้อส่วนผสมวุ้นขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างสูง พอเริ่มเดือดให้ปรับเป็นไฟกลางแล้วใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน (พยายามคนวุ้นไปทิศทางเดียวกันและหมั่นช้อนฟองทิ้ง) พอวุ้นเริ่มจะเดือดอีกครั้งให้ปรับเป็นไฟอ่อน ต้มต่อประมาณ 10 นาที ปิดไฟ
• 3. นำส่วนผสมวุ้นไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ พักทิ้งไว้ประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้วุ้นอุ่น
• 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงไปในพิมพ์ประมาณ 1 ช้อนชา (ขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์) ใส่ผลไม้ตามลงไป เทส่วนผสมวุ้นที่เหลือลงไปในพิมพ์จนถึงขอบพิมพ์ (วุ้นต้องไม่ร้อนจนเกินไปเพราะผลไม้จะสุกได้)
• 5. ปิดฝาพิมพ์ ทับด้วยจาน หรือเขียง (หรือวัสดุที่หนัก ๆ) พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้วุ้นเซตตัว
• 6. แกะวุ้นผลไม้สดออกจากพิมพ์ นำไปแช่ตู้เย็นจนเย็นจัด จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานตามชอบ
2. วุ้นกะทิดอกไม้
เมนูวุ้นกะทิเป็นอันดับต้น ๆ ของเมนูวุ้นคลายร้อนที่นึกถึงเลยนะคะ แม้จะหากินง่ายแต่ถ้าทำเองสามารถใส่สีได้ตามชอบ และเนรมิตเป็นรูปต่าง ๆ ได้ดั่งใจ ใครสนใจอยากทำวุ้นกะทิง่าย ๆ ในวันหยุดนี้มาจดสูตรได้เลยค่ะ
ส่วนผสม วุ้นกะทิ
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• หัวกะทิ 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม วุ้นสี
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
• สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา
อุปกรณ์
• พิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้
วิธีทำวุ้นกะทิ
• 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด
• 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด
• 3. เทหัวกะทิกับเกลือป่นใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลงจากเตา หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์ซิลิโคนประมาณ 1/2 ของพิมพ์ พักทิ้งไว้จนเซตตัว
• 4. ทำวุ้นสีโดยใส่น้ำเปล่าและผงวุ้นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟคนให้ละลาย ใส่ใบเตยลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลละลายและมีกลิ่นใบเตย จากนั้นตักใบเตยทิ้ง
• 5. ใส่สีผสมอาหารลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปหยอดลงบนวุ้นกะทิที่เซตตัวแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พักทิ้งไว้จนคลายความร้อน นำไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ : เมื่อวุ้นชั้นแรกเริ่มเซตตัวแล้ว ให้ตักวุ้นชั้นต่อไปใส่ได้เลยไม่ต้องรอให้วุ้นแข็งตัว เพราะจะทำให้ชั้นของวุ้นไม่ติดกัน
ผงวุ้นที่ซื้อเก็บไว้ก็เอามาทำวุ้นน้ำเขียว วุ้นน้ำแดง รวมถึงวุ้นแมงลักไปหลายคราแล้ว ถ้าหากวันนี้ว่าง ๆ ลองเปลี่ยนแนวมาทำเมนูวุ้นลูกแก้วผลไม้สดสูตรจากคุณ Rin's Cookbook (#rinscookbook)จุดเด่นคือ ใส่ผลไม้สดลงไปในเนื้อวุ้นลูกกลม ๆ กินเปล่า ๆ ก็เพลินดี หรือจะราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานลงไปก็เก๋ค่ะ ผลไม้พร้อม ผงวุ้นพร้อม แต่ผู้ช่วยล่ะ ขอตัวไปงัดคุณแฟนขึ้นมาจากเตียงก่อนนะคะ
ส่วนผสม วุ้นลูกแก้วผลไม้สด
• น้ำเปล่า 2 ถ้วย + 3/4 ถ้วย
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• กลิ่นผลไม้ เช่น กลิ่นสตรอว์เบอร์รี (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 2-3 หยด
• น้ำเชื่อม หรือน้ำหวาน (ตามชอบ)
อุปกรณ์
• พิมพ์ลูกบอลกลม (หาซื้อตามร้านขายสินค้าญี่ปุ่น)
วิธีทำวุ้นลูกแก้วผลไม้สด
• 1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ โรยผงวุ้นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
• 2. นำหม้อส่วนผสมวุ้นขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างสูง พอเริ่มเดือดให้ปรับเป็นไฟกลางแล้วใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน (พยายามคนวุ้นไปทิศทางเดียวกันและหมั่นช้อนฟองทิ้ง) พอวุ้นเริ่มจะเดือดอีกครั้งให้ปรับเป็นไฟอ่อน ต้มต่อประมาณ 10 นาที ปิดไฟ
• 3. นำส่วนผสมวุ้นไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ พักทิ้งไว้ประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้วุ้นอุ่น
• 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงไปในพิมพ์ประมาณ 1 ช้อนชา (ขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์) ใส่ผลไม้ตามลงไป เทส่วนผสมวุ้นที่เหลือลงไปในพิมพ์จนถึงขอบพิมพ์ (วุ้นต้องไม่ร้อนจนเกินไปเพราะผลไม้จะสุกได้)
• 5. ปิดฝาพิมพ์ ทับด้วยจาน หรือเขียง (หรือวัสดุที่หนัก ๆ) พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้วุ้นเซตตัว
• 6. แกะวุ้นผลไม้สดออกจากพิมพ์ นำไปแช่ตู้เย็นจนเย็นจัด จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานตามชอบ
2. วุ้นกะทิดอกไม้
เมนูวุ้นกะทิเป็นอันดับต้น ๆ ของเมนูวุ้นคลายร้อนที่นึกถึงเลยนะคะ แม้จะหากินง่ายแต่ถ้าทำเองสามารถใส่สีได้ตามชอบ และเนรมิตเป็นรูปต่าง ๆ ได้ดั่งใจ ใครสนใจอยากทำวุ้นกะทิง่าย ๆ ในวันหยุดนี้มาจดสูตรได้เลยค่ะ
ส่วนผสม วุ้นกะทิ
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• หัวกะทิ 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม วุ้นสี
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนชา
• น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
• สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา
อุปกรณ์
• พิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้
วิธีทำวุ้นกะทิ
• 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด
• 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด
• 3. เทหัวกะทิกับเกลือป่นใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลงจากเตา หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์ซิลิโคนประมาณ 1/2 ของพิมพ์ พักทิ้งไว้จนเซตตัว
• 4. ทำวุ้นสีโดยใส่น้ำเปล่าและผงวุ้นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟคนให้ละลาย ใส่ใบเตยลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลละลายและมีกลิ่นใบเตย จากนั้นตักใบเตยทิ้ง
• 5. ใส่สีผสมอาหารลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปหยอดลงบนวุ้นกะทิที่เซตตัวแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พักทิ้งไว้จนคลายความร้อน นำไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ : เมื่อวุ้นชั้นแรกเริ่มเซตตัวแล้ว ให้ตักวุ้นชั้นต่อไปใส่ได้เลยไม่ต้องรอให้วุ้นแข็งตัว เพราะจะทำให้ชั้นของวุ้นไม่ติดกัน
3. วุ้นเป็ด
วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนที่คุ้นเคยเป็นทรงกลม หรือสี่เหลี่ยม ณ ตอนนี้ได้กลายร่างเป็นวุ้นเป็ดก๊าบ ๆ แล้วจ้า แหม… ดูน่ารักน่าเอ็นดูเชียว ถ้าอยากสร้างความต่างก็จับใส่สีได้ตามชอบอีกต่างหาก ใครสนใจอยากทำวุ้นเป็ดไปซื้อพิมพ์มาเตรียมให้พร้อมนะคะ
ส่วนผสม วุ้นเป็ด
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิคั้นสด 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• ใบเตย (หั่นเป็นท่อน) 2-3 ใบ
• น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• เนื้อมะพร้าวอ่อน
อุปกรณ์
• พิมพ์วุ้นเป็ด
วิธีทำวุ้นเป็ด
• 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด
• 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด
• 3. เทหัวกะทิใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากันพอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น ๆ ลงไป คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา
• 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์วุ้นเป็ดจนเต็ม พักทิ้งไว้จนวุ้นเริ่มเซตตัวและคลายความร้อน จากนั้นนำไปแช่เย็น นำออกจากพิมพ์ก่อนเสิร์ฟ
4. วุ้นมะพร้าวอ่อนราดซอสนมสด
เป็นเหมือนกันไหม ? ซื้อวุ้นมะพร้าวอ่อนมาแต่กัดไปไม่เจอเนื้อมะพร้าวอ่อนเลย แถมยังรสชาติหวานแสบคอ ถ้าหากไม่ได้ดั่งใจก็ทำกินเองเลยดีกว่าเนอะ พบกับเมนูวันมะพร้าวอ่อน ขนมคลายร้อน จุดเด่นอยู่ที่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนและเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปผสมกับกะทิด้วยล่ะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความฟินอีกระดับด้วยน้ำราดหวานหอม อูย… อร่อยจนลืมอ้วนก็คราวนี้
ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน
• น้ำตาลทราย 90 กรัม
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 350 กรัม
• น้ำมะพร้าว 350 กรัม
• กะทิ 120 กรัม
• เนื้อมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
ส่วนผสม ซอสนมสด (สำหรับราด)
• นมสดรสจืด 1/2 ถ้วย
• นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
• นมข้นหวาน (ปริมาณตามชอบ)
วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน
• 1. ทำวุ้นมะพร้าวโดยเทน้ำตาลทรายและผงวุ้นใส่ลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน พักไว้
• 2. ใส่น้ำเปล่าและน้ำมะพร้าวลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแล้วเทส่วนผสมวุ้นลงไปคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผงวุ้นละลาย
• 3. เทกะทิลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนเบา ๆ ตักใส่ภาชนะ นำไปแช่เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัวเร็วขึ้น
• 4. ทำซอสสำหรับราดด้านบนโดยผสมนมสด นมข้นจืด และนมข้นหวานเข้าด้วยกัน ตักราดลงไปบนวุ้นมะพร้าวอ่อนที่เซตตัวแล้ว พร้อมเสิร์ฟ หรือนำเข้าแช่เย็นอีกครั้งก่อนเสิร์ฟ
วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนที่คุ้นเคยเป็นทรงกลม หรือสี่เหลี่ยม ณ ตอนนี้ได้กลายร่างเป็นวุ้นเป็ดก๊าบ ๆ แล้วจ้า แหม… ดูน่ารักน่าเอ็นดูเชียว ถ้าอยากสร้างความต่างก็จับใส่สีได้ตามชอบอีกต่างหาก ใครสนใจอยากทำวุ้นเป็ดไปซื้อพิมพ์มาเตรียมให้พร้อมนะคะ
ส่วนผสม วุ้นเป็ด
• น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
• ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
• หัวกะทิคั้นสด 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
• ใบเตย (หั่นเป็นท่อน) 2-3 ใบ
• น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
• เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
• เนื้อมะพร้าวอ่อน
อุปกรณ์
• พิมพ์วุ้นเป็ด
วิธีทำวุ้นเป็ด
• 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด
• 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด
• 3. เทหัวกะทิใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากันพอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น ๆ ลงไป คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา
• 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์วุ้นเป็ดจนเต็ม พักทิ้งไว้จนวุ้นเริ่มเซตตัวและคลายความร้อน จากนั้นนำไปแช่เย็น นำออกจากพิมพ์ก่อนเสิร์ฟ
4. วุ้นมะพร้าวอ่อนราดซอสนมสด
เป็นเหมือนกันไหม ? ซื้อวุ้นมะพร้าวอ่อนมาแต่กัดไปไม่เจอเนื้อมะพร้าวอ่อนเลย แถมยังรสชาติหวานแสบคอ ถ้าหากไม่ได้ดั่งใจก็ทำกินเองเลยดีกว่าเนอะ พบกับเมนูวันมะพร้าวอ่อน ขนมคลายร้อน จุดเด่นอยู่ที่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนและเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปผสมกับกะทิด้วยล่ะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความฟินอีกระดับด้วยน้ำราดหวานหอม อูย… อร่อยจนลืมอ้วนก็คราวนี้
ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน
• น้ำตาลทราย 90 กรัม
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• น้ำเปล่า 350 กรัม
• น้ำมะพร้าว 350 กรัม
• กะทิ 120 กรัม
• เนื้อมะพร้าวอ่อน 200 กรัม
ส่วนผสม ซอสนมสด (สำหรับราด)
• นมสดรสจืด 1/2 ถ้วย
• นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
• นมข้นหวาน (ปริมาณตามชอบ)
วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน
• 1. ทำวุ้นมะพร้าวโดยเทน้ำตาลทรายและผงวุ้นใส่ลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน พักไว้
• 2. ใส่น้ำเปล่าและน้ำมะพร้าวลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแล้วเทส่วนผสมวุ้นลงไปคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผงวุ้นละลาย
• 3. เทกะทิลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนเบา ๆ ตักใส่ภาชนะ นำไปแช่เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัวเร็วขึ้น
• 4. ทำซอสสำหรับราดด้านบนโดยผสมนมสด นมข้นจืด และนมข้นหวานเข้าด้วยกัน ตักราดลงไปบนวุ้นมะพร้าวอ่อนที่เซตตัวแล้ว พร้อมเสิร์ฟ หรือนำเข้าแช่เย็นอีกครั้งก่อนเสิร์ฟ
5. วุ้นมะพร้าวอ่อนในลูกมะพร้าว
วุ้นมะพร้าวอ่อนทั่วไปกินไม่จุใจเพราะชิ้นเล็ก แถมมะพร้าวอ่อนก็ยังน้อยนิด ถ้าอยากกินแบบจัดเต็มขอแนะนำวุ้นในลูกมะพร้าวสูตรจากคุณ RinS CookBook (#rinscookbook) สูตรนี้ใส่ผงวุ้นไม่เยอะ ใช้น้ำมะพร้าวล้วน ๆ ไม่ใส่น้ำเปล่า เนื้อวุ้นจะออกนิ่ม ๆ หน่อย ผสมผสานกับเนื้อมะพร้าวเต็ม ๆ จับไปแช่เย็นหน่อย อูย… เห็นแล้วน้ำลายสอ
ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน
• ผงวุ้น 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่เยอะเพื่อต้องการให้วุ้นไม่แข็งเกินไป)
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• มะพร้าวอ่อน 1 ลูก
วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน
• 1. เฉาะมะพร้าวออกแล้วเทน้ำมะพร้าวลงในหม้อ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน
• 2. ใช้ช้อน (หรือที่ขูด) ขูดเนื้อมะพร้าวออกมาจากตัวมะพร้าว (แต่ไม่ใช้เนื้อตรงฝาจะได้มีไว้ด้านบนให้สวย ๆ) เตรียมไว้
• 3. ใส่ผงวุ้นลงไปในน้ำมะพร้าวคนให้เข้ากัน ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง คอยคนส่วนผสมตลอดเวลาเพื่่อไม่ให้ติดก้นหม้อ รอให้เดือด ปิดไฟ เทกลับลงไปในลูกมะพร้าว เติมเนื้อมะพร้าวลงไป นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนวุ้นเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
วุ้นมะพร้าวอ่อนทั่วไปกินไม่จุใจเพราะชิ้นเล็ก แถมมะพร้าวอ่อนก็ยังน้อยนิด ถ้าอยากกินแบบจัดเต็มขอแนะนำวุ้นในลูกมะพร้าวสูตรจากคุณ RinS CookBook (#rinscookbook) สูตรนี้ใส่ผงวุ้นไม่เยอะ ใช้น้ำมะพร้าวล้วน ๆ ไม่ใส่น้ำเปล่า เนื้อวุ้นจะออกนิ่ม ๆ หน่อย ผสมผสานกับเนื้อมะพร้าวเต็ม ๆ จับไปแช่เย็นหน่อย อูย… เห็นแล้วน้ำลายสอ
ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน
• ผงวุ้น 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่เยอะเพื่อต้องการให้วุ้นไม่แข็งเกินไป)
• น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
• มะพร้าวอ่อน 1 ลูก
วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน
• 1. เฉาะมะพร้าวออกแล้วเทน้ำมะพร้าวลงในหม้อ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน
• 2. ใช้ช้อน (หรือที่ขูด) ขูดเนื้อมะพร้าวออกมาจากตัวมะพร้าว (แต่ไม่ใช้เนื้อตรงฝาจะได้มีไว้ด้านบนให้สวย ๆ) เตรียมไว้
• 3. ใส่ผงวุ้นลงไปในน้ำมะพร้าวคนให้เข้ากัน ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง คอยคนส่วนผสมตลอดเวลาเพื่่อไม่ให้ติดก้นหม้อ รอให้เดือด ปิดไฟ เทกลับลงไปในลูกมะพร้าว เติมเนื้อมะพร้าวลงไป นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนวุ้นเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
6. วุ้นสำรองลอยแก้ว
สำหรับสาว ๆ ที่อยากลดพุงแต่ก็อยากกินขนมหวานใจจะขาด มามะมากินเมนูวุ้นสำรองลอยแก้วกันดีกว่าค่ะ เพราะสรรพคุณลูกสำรองนอกจากช่วยระบายแล้วยังช่วยดูดจับไขมัน และชำระล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ให้ออกมา และที่สำคัญทำให้อิ่มท้อง เอาล่ะ… ถ้าสนใจขอแนะนำสูตรจากนิตยสาร Food News & Life นอกจากได้กินวุ้นสำรองแล้วยังเพิ่มฟรุตค็อกเทลและเชอร์รีแดงลงไปอีกด้วย น่าหม่ำจังเลยเนอะ
ส่วนผสม วุ้นสำรองลอยแก้ว
• ลูกสำรอง 10 ลูก
• น้ำเปล่า 1 ลิตร
• น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• ฟรุตค็อกเทลกระป๋อง (สำหรับเสิร์ฟ)
• เชอร์รีเชื่อม (ตกแต่ง)
• น้ำแข็ง (สำหรับเสิร์ฟ)
วิธีทำวุ้นสำรองลอยแก้ว
• 1. ล้างลูกสำรองให้สะอาด ตัดหัว แช่ทิ้งไว้ในน้ำอุ่นจนพองตัวเป็นวุ้น จากนั้นลอกเปลือกออกจนหมด
• 2. ต้มเนื้อสำรองกับน้ำจนเดือดพักไว้จนเย็นสนิท
• 3. ใส่น้ำสำรอง น้ำตาลทรายแดง และผงวุ้นในหม้อนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด เทลงพิมพ์ พักไว้จนวุ้นเซตตัวดี นำเข้าตู้เย็น
• 4. ก่อนเสิร์ฟใส่ฟรุตค็อกเทลกระป๋องและเชอร์รีแดง เติมน้ำแข็ง
สำหรับสาว ๆ ที่อยากลดพุงแต่ก็อยากกินขนมหวานใจจะขาด มามะมากินเมนูวุ้นสำรองลอยแก้วกันดีกว่าค่ะ เพราะสรรพคุณลูกสำรองนอกจากช่วยระบายแล้วยังช่วยดูดจับไขมัน และชำระล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ให้ออกมา และที่สำคัญทำให้อิ่มท้อง เอาล่ะ… ถ้าสนใจขอแนะนำสูตรจากนิตยสาร Food News & Life นอกจากได้กินวุ้นสำรองแล้วยังเพิ่มฟรุตค็อกเทลและเชอร์รีแดงลงไปอีกด้วย น่าหม่ำจังเลยเนอะ
ส่วนผสม วุ้นสำรองลอยแก้ว
• ลูกสำรอง 10 ลูก
• น้ำเปล่า 1 ลิตร
• น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
• ผงวุ้น 2 ช้อนชา
• ฟรุตค็อกเทลกระป๋อง (สำหรับเสิร์ฟ)
• เชอร์รีเชื่อม (ตกแต่ง)
• น้ำแข็ง (สำหรับเสิร์ฟ)
วิธีทำวุ้นสำรองลอยแก้ว
• 1. ล้างลูกสำรองให้สะอาด ตัดหัว แช่ทิ้งไว้ในน้ำอุ่นจนพองตัวเป็นวุ้น จากนั้นลอกเปลือกออกจนหมด
• 2. ต้มเนื้อสำรองกับน้ำจนเดือดพักไว้จนเย็นสนิท
• 3. ใส่น้ำสำรอง น้ำตาลทรายแดง และผงวุ้นในหม้อนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด เทลงพิมพ์ พักไว้จนวุ้นเซตตัวดี นำเข้าตู้เย็น
• 4. ก่อนเสิร์ฟใส่ฟรุตค็อกเทลกระป๋องและเชอร์รีแดง เติมน้ำแข็ง
วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560
ICE CREAM
ไอติมกะทิ
ส่วนผสม
1. กะทิกล่อง หรือกะทิกระป๋องสูตรเข้มข้น ขนาด 560 มิลลิลิตร
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
3. เกลือ ¾ ช้อนชา
4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
5. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น (มีหรือไม่มีก็ได้)
วิธีทำ
1. เทกะทิทั้งหมด ผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย หรือถ้ามีน้ำมะพร้าว ก็ให้ใช้น้ำมะพร้าว กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วย เพื่อเพิ่มความหอมหวานของกะทิมากขึ้น
2. นำกะทิไปตั้งไฟ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายผสมลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันจนกะทิเดือด
3. นำกะทิมาพักให้เย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะที่เหมาะกับการแช่เย็น
4. นำภาชนะดังกล่าวไปแช่ในช่องแข็ง จนกะทิเริ่มแข็งตัว
5. ในการแช่กะทิ ให้สังเกตุว่ากะทิเริ่มเป็นเกล็ดหรือยัง หากเริ่มเย็นจนเป็นเกล็ดแล้ว สามารถนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร
6.นำกะทิดังกล่าวมาปั่น หากไม่มีเครื่องปั่นสำหรับทำไอศกรีม สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ธรรมดาแทนได้ค่ะ
ปั่นครั้งที่ 1
นำกะทิใส่เครื่องปั่น และปั่นจนกว่าเนื้อไอศครีมจะละเอียด จากนั้นนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ
ปั่นครั้งที่ 2
เมื่อเนื้อไอครีมที่ปั่นรอบแรกเริ่มเป็นน้ำแข็ง ก็ให้นำออกมาปั่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ให้ใส่ไข่ขาวลงไป 1 ฟอง เมื่อเครื่องปั่นตีกะทิกับไข่ขาวจนเข้ากันแล้ว จะเห็นว่าเนื้อไอศครีมขาว และฟูขึ้น จากนั้นจึงนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ
ปั่นครั้งที่ 3
นำไอศกรีมที่แช่จนเป็นเกร็ดแล้วมาปั่นอีกรอบ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเนียนฟูมากยิ่งขึ้น หากใครชอบทานไอศกรีมกะทิ แบบมีเนื้อมะพร้าวด้วย ให้นำเนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ มาผสมกับไอศกรีมกะทิที่ปั่นในรอบที่สาม แต่ในครั้งนี้ควรปั่นเพียงเล็กน้อยพอให้เนื้อมะพร้าวเข้ากันค่ะ หรือจะปั่นรอบที่สามให้เสร็จก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อมะพร้าวแล้วปั่นอีกนิดก็ได้ค่ะ
เพียงแค่นี้ เราก็จะได้ไอศกรีมกะทิแสนอร่อย เอาไว้ทานเพื่อคลายร้อนกันแล้วล่ะ...อ้อ เคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมกะทิจะอยู่ที่การปั่นเนื้อไอศกรีมให้ละเอียด ยิ่งปั่นหลายรอบ เนื้อไอศกรีมก็จะยิ่งเนียนฟูมากขึ้น แต่วิธีที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นแบบเร่งรัดจ้า
ชีสทาร์ต
ส่วนผสมแป้งทาร์ต
- แป้งสาลี 127 กรัม
- เนยเค็ม 100 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่แดง 1 ฟอง
- น้ำเปล่า (เย็น) 1ช้อนโต๊ะ
- เตรียมแม่พิมพ์วงกลมสำหรับกรุแป้งทาร์ตส่วนผสมของชีส
- มอสซาเรลล่า ชีส 50 กรัม
- ชีสมาสคาร์โปเน่ 100 กรัม
- ครีมชีส 100 กรัม
- นม 150 มิลลิลิตร
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- วานิลลา 1 ช้อนชา
วิธีทำแป้งทาร์ต- ผสมแป้งสาลี เกลือ และ น้ำตาลไอซิ่ง ในชามผสม คนให้เข้ากัน
- ใส่เนยตามลงไป ใช้พายยางคนให้เนยแตกเป็นก้อนเล็กๆ ตามด้วยไข่แดงและน้ำเย็น
- นวดจนแป้งได้ที่ ห่อแป้งด้วยแผ่นพลาสติกแรป แช่ตู้เย็น 30 นาที
วิธีทำชีสทาร์ต- เปิดเตาอบรอไว้ก่อนที่ 190 องศสเซลเซียส
- นำแป้งออกจากตู้เย็น คลึงแป้งให้หนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร ระหว่างคลึงให้โรยแป้งสาลีไปด้วย
- ตัดแป้งให้เป็นวงกลม ให้ขนาดใหญ่กว่าแม่พิมพ์ เผื่อพื้นที่ด้านข้างของแม่พิมพ์ เวลากดแป้งใส่พิมพ์จะได้ไม่เล็กเกินไป ใช้ถ้วยที่มีอยู่ในครัวตัดแป้งก็ได้นะคะ กะขนาดเอา
- กรุแป้งที่ตัดวงกลมลงในแม่พิมพ์ กดให้เป็นตามรูปทรงของแม่พิมพ์ และใช้ไม้แหลมจิ้มให้ทั่ว
- นำเข้าเตาอบ 8 นาที แล้วนำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น ระหว่างนั้นก็หันมาทำชีส
- นำนมใส่หม้อต้มด้วยไฟอ่อน ตามด้วยส่วนผสมของชีส น้ำผึ้ง วานิลลา เคี่ยวจนทุกอย่างเข้ากันดี
- เทชีสลงในแป้งทาร์ตปริมาณ 3/4 ของแป้งทาร์ต ลดความร้อนของเตาอบให้เหลือ 150 องซาเซลเซียส นำชีสทาร์ตเข้าเตาอบ 5 นาที
- เมื่ออบจนได้เวลาแล้ว นำทาร์ตออกมา วางทิ้งไว้สักพักให้ทาร์ตเย็นตัวลงแล้วค่อยๆ แกะแม่พิมพ์ออก แค่นี้ก็ได้ทาร์ตพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
สลัดผลไม้
ลองมาดูกันนนนน
สลัดผลไม้แบบดั้งเดิม
- สตอเบอร์รี่ 1 ถ้วย (140 กรัม)
- เชอร์รี่ 1 ถ้วย (140 กรัม)
- บลูเบอร์รี่ 1/2 ถ้วย (70 กรัม)
- แอปเปิ้ลแดง 1/2 ลูก
- พีช 1/2 ลูก
- กีวี่ 1 ลูก
- น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.)
ฝอยทอง ของอร่อย
ฝอยทอง
อุปกรณ์
- กระทะทองเหลือง ชามผสม กระชอน เทียนหอม
วัตถุดิบ
1. ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
2. ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
3. กลิ่นดอกมะลิ ½ ช้อนชา
4. ใบเตย 1 ใบ
5. น้ำตาลทราย 600 ก.
6. น้ำเปล่า 400 มล.
7. เทียนอบ 1 ชิ้น
- กระทะทองเหลือง ชามผสม กระชอน เทียนหอม
วัตถุดิบ
1. ไข่แดงของไข่เป็ด 3 ฟอง
2. ไข่แดงของไข่ไก่ 2 ฟอง
3. กลิ่นดอกมะลิ ½ ช้อนชา
4. ใบเตย 1 ใบ
5. น้ำตาลทราย 600 ก.
6. น้ำเปล่า 400 มล.
7. เทียนอบ 1 ชิ้น
* ส่วนผสมสำหรับ 2 - 3 ที่
เวลาในการทำประมาณ 30 นาที
วิธีการทำ
1. นำน้ำเปล่า น้ำตาลทราย ใบเตย กลิ่นมะลิ ลงต้มในกระทะทองเหลือง เปิดไฟแรง ห้ามคนเด็ดขาดไม่อย่างนั้นน้ำตาลจะตกผลึก
2. ตีไข่ไก่และไข่เป็ดให้เข้ากัน นำไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ จากนั้นตักไข่ใส่กรวยสำหรับทำฝอยทอง
3. ตักใบเตยออก และหยอดไข่ให้เป็นสาย วนให้รอบกระทะทองเหลืองประมาณ 20 - 30 รอบ ต่อ 1 ชิ้น
4. ใช้ไม้ปลายแหลม ค่อยๆช้อนฝอยทองขึ้นมาให้เป็นแผ่น วางพักไว้บนตะแกรง 30 นาที
5. จุดเทียนหอมให้มีควันขึ้นมา แล้วจึงดับไฟ นำเทียนหอมและขนมฝอยทอง อบรวมกันด้วยภาชนะปิด 10 นาที ก็จะได้ฝอยทองหอมๆไว้รับประทานแล้วค่ะ
ขนมสามเกลอ
ขนมสามเกลอ
ส่วนประกอบ
มะพร้าวทึนทึก 2 ถ้วยตวง
ถั่วทอง 1 ถ้วยตวง
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง
แป้งข้าวเหนียว 2 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 1 ช้อนชา
น้ำปูนใส 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิข้น ๆ 3/4-1 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำถั่วคั่วใส่รังถึงนึ่งประมาณ 45 นาที แล้วนำมาบดให้ละเอียด เคล้ามะพร้าวกับน้ำตาลให้เข้ากันในกระทะทอง น้ำตาลแห้งไปให้เติมน้ำต้มใบเตย ลงประมาณ 2-4 ช้อนโต๊ะ ยกขึ้นตั้งไฟกวนไปจนเหนียวเป็นยางมะตูมจึงใส่ถั่วลงไป กวนให้เข้ากัน จนเหนียวปั้นได้จึงยกลงพักให้คลายร้อน ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ฝ เซนติเมตร จับวางติดกัน 3 ลูก จนหมด
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวเหนียวและผงฟูเข้าด้วยกัน ถ้าร่อนให้เข้ากันสัก 2 ครั้ง ได้ก็จะทำให้ส่วนผสมเข้ากัน ดียิ่งขึ้นทำชหลุมตรงกลางชาม แป้งรอไว้ ผสมกะทิ น้ำปูนใสและเกลือคนให้เข้ากัน เทลงในหลุมแป้ง ที่เตรียมไว้ คนให้เข้ากับแป้งโดยใช้ลวดตีไข่
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไปพอน้ำมันร้อนจึงจับขนมที่ ติดกัน แพละ 3 ลูก ชุบลงในแป้งนำลงทอดให้แป้งที่ชอบ กรอบออกสีเหลืองนวล ๆ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
ที่มา
วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2560
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)