DONUT

โดนัท

วิธีทำ

ส่วนผสม แป้งโดนัท (**เราเบิ้ลสูตรจากต้นฉบับ ดัดแปลงตามวัตถุดิบที่มีและเพิ่มน้ำตาล ได้โดนัทประมาณ 17 ชิ้นใหญ่**)

• น้ำตาลทราย 120 กรัม

• ยีสต์ 15 กรัม

• น้ำ 100 มิลลิลิตร

• นมสดรสหวาน 140 มิลลิลิตร (เราใช้นมไทย-เดนมาร์ค รสหวานแทน กะจะให้หวาน)

• เกลือป่น 5 กรัม (เราใส่แค่หยิบ 3 นิ้ว)

• ไข่ไก่ (ขนาด 50-55 กรัม) 2 ฟอง

• แป้งสาลีอเนกประสงค์ 500 กรัม

• เนยจืด  30 กรัม

• ไขมันถั่วเหลืองสำหรับทอดโดนัท

ส่วนผสม น้ำตาลไอซิ่งสำหรับชุบโดนัท (**ได้สูตรมาจาก โดนัท foodtravel เคลือบโดนัทได้ครบทุกชิ้น)

        • นมสดรสหวาน 4 ช้อนโต๊ะ (เราใช้นมไทย-เดนมาร์ครสหวานแทน)

        • เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ

        • กลิ่นวานิลา 1/2 ช้อนชา

        • น้ำตาลไอซิ่ง 330 กรัม

        • ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ น้ำตาลไอซิ่งสำหรับชุบโดนัท

        • 1. นำนมสดและเนยใส่หม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน คนให้เนยละลาย

        • 2. พอนมเดือดนิดหน่อย ใส่กลิ่นวานิลาลงไป ปิดไฟ 

        • 3. ใส่น้ำตาลไอซิ่งที่ร่อนแล้วลงลงไป คนผสมจนเนื้อเนียน จากนั้นใส่ผงโกโก้ ตั้งไฟต่อให้ร้อนแล้วคนอีก เพราะมันเย็นเร็วมาก**ต้องรีบชุบรีบทำนะค่ะ พอมันเริ่มแห้งเราก็ตั้งไฟต่อได้คะให้พอร้อนแล้วค่อยชุบต่อ**

วิธีทำ

        • นวดผสมน้ำตาลทราย ยีสต์ น้ำ นมสดรสหวาน เกลือป่น ไข่ไก่ แป้งสาลีอเนกประสงค์ และเนยจืดเข้าด้วยกันในอ่างผสม นวดด้วยมือประมาณ 40 นาที แล้วพัก 30 นาที หรือจนแป้งโดขึ้นเป็น 2 เท่า ทุบไล่ลมแล้วพักต่ออีก 30 นาทีหรือขึ้นเป็น 2 เท่า 

• คลึงแป้งให้หนาประมาณ 1 เซนติเมตร แล้วใช้แก้วกับก้นพิมพ์คุกกี้มากดแป้ง 

• ตัดแล้วก็พักต่ออีกให้โดนัทฟูขึ้นเท่าตัวเลย เราให้ฟูประมาณนี้

ขนมฝรั่งเศส

1. Finacier อ่านว่า “ฟินองซิเอ” เป็นคล้ายๆ อัลมอนด์เค้กผสมบราวน์บัตเตอร์ เป็นขนมในตำนานเก่าแก่ของฝรั่งเศสที่เราจะเจอได้ในเซ็ต Afternoon Tea เป็นเค้กที่มีแต่ไข่ขาว ไม่มีไข่แดง กัดเข้าไปเนื้อจะเป็นอัลมอนด์ มีกลิ่นเนยไหม้คาราเมล เสิร์ฟพร้อม Ganache (กานาช) หรือช็อคโกแลตซอส

2. Madeleine ออกเสียงว่า “เมดเดเลน” ขนมชนิดนี้จะขาดพิมพ์รูปหอย ออริจินัลของเมดเดเลนไปไม่ได้เลย ตรงกลางจะปูดขึ้น รสชาติคล้ายๆ กับขนมไข่ แต่เป็นขนมที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยเนย อยู่ในเซ็ต Afternoon Tea ทานกับน้ำชาเข้ากันมากๆ

3. Macaron มาการองหรือมากาคอง ต้องออกเสียงตัว r สะเทือนในลำคอเล็กน้อย อันนี้เห็นบ่อย จะเป็นขนมที่มีสองฝาประกบมาไว้ตรงกลาง มีพื้นฐานมาจากเมอแรงค์ คำนี้แปลว่าเป็นส่วนผสมของไข่ขาวกับน้ำตาล เข้าใจตรงกันนะ

4. Sweet Coconut Macaroon มาการูนเป็นขนมคนละแบบกับมาการอง แต่คนจะไม่ค่อยรู้จัก เพราะต้นตำรับจริงๆ เป็นขนมที่ทำมาจากไข่ขาวกับมะพร้าว แต่มีเบสจากเมอรแรงค์กับมะพร้าว กัดแล้วมีมะพร้าวชุ่มๆ

5. Croquembouche สั่งเลยว่า “โครคัมบูช” เป็นขนมที่เอาขนมชู Choux มาต่อกันให้เป็นทาวเวอร์หอคอย มีไส้คัสตาร์ด ขนมชนิดนี้จะใช้ในงานแต่งงาน หรือคริสต์มาส เพราะหน้าตาเหมือนต้นคริสต์มาสเลยนะ

6. Paris Brest เป็นอาหารที่สร้างขึ้นมาจากตำนานปั่นจักรยานเพื่อนการกุศลจากเมื่องปารีสถึงเมืองเบรสต์ หน้าตาของขนมเลยเป็นเหมือนกงล้อจักรยาน ปารีสเบรนต์มีมานานมากแล้ว

7. Profiterole “โปรฟิเทอโรล” เป็นแป้งชูที่เอามาทำเอแคลร์และขนมที่เราบอกมาข้างบนหลายอย่าง แต่โปรฟิเทอโรลจะไซส์เล็กๆ ข้างในใส่ไส้วานิลลาไอศครีม เสริ์ฟพร้อมช็อกโกแลตฟ้ดจ์แล้วก็อัลมอนด์ ต้องเป็นไส้นี้เท่านั้นนะถึงจะเรียกว่าโปรฟิเทอโรล

8. Tarte Tatin ออกเสียงว่าทาร์ต ตาแตง หรือทาร์ตแอปเปิ้ลคาราเมลคว่ำหน้า เราจะอบแอปเปิ้ลกับคาราเมล แล้วแป้งพัฟอยู่ข้างบนแล้วคว่ำลง แอปเปิ้ลก็จะอยู่ข้างบนอย่างสวยงามแทน

9. Mille-feuille หรือมิลล์เฟย มิลล์มาจาก 1 ล้าน เฟยแปลว่าใบไม้ รวมกันคือใบไม้ที่ทับถมกันเป็นล้านๆ ชั้น เดี๋ยวนะ ไม่ได้ทำมาจากใบไม้ แต่ เขาเปรียบตัวนี้เหมือนแป้งพัฟบางๆ เพราะแป้งพัฟจะสลับกับเนย พออบแล้วเกิดเป็นชั้นเกิดขึ้นสลับกับไส้ครีม รสเบานุ่มนวลมาก

10. Mont Blanc คุ้นหูขึ้นมาอีกนิดกับมองบลังค์ เป็นเค้กที่ทำมาจาก chestnut หรือเกาลัด ข้างในมีเมอแรงค์ ข้างนอกเป็นเชสนัทครีม เขาจะเปรียบกับเทือกเขามองบลังค์นี่แหละ ก่อนทานต้องโรยไอซิ่งสีขาวด้านบนให้เหมือนมีหิมะบนยอดเขาอยู่

แบบเสนอหัวข้อเว็บไซต์

แบบเสนอหัวข้อเว็บไซต์

 แบบเสนอหัวข้อการสร้าง Blog รายวิชา ง31101 การงานอาชีพและเทคโนโลยี

ผู้เสนอ น.ส.สุดารัตน์  วัดพะยา   ชั้น  ม. 4/5 เลขที่ 30

ชื่อ blog  กินขนมกัน     ชื่อ blog ภาษาอังกฤษ EATKANHOM

ที่อยู่ blog  eatkanhom.blogspot.com

ครูที่ปรึกษา ครูศิวาวุธ  ภาณุพิจารย์ 

ที่มาและความสำคัญ

                 เพื่อเผยแพร่การทำขนมให้กับคนที่อยากจะศึกษาการทำขนม และอยากทานขนมที่ตนเองไม่เคยทาน ทำให้ได้รู้ถึงการทำอาหารที่ง่ายๆและสะดวก

                เพื่อทำให้ตนเองรู้จักขนมมากขึ้น และรู้ถึงวิธีการทำขนมที่เราอยากจะทำ 

                เพื่อให้คนที่อยากขายขนมแต่ยังไม่รู้จะทำขนมอะไรขายสามารถเข้ามาดูและนำไปทำขายได้

วัตถุประสงค์ของการดำเนินงาน

1. เพื่อblog กินขนมกัน ขึ้นมาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการทำขนมต่างๆ และวิธีทำ

2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้ชม

3. เพื่อศึกษาการสร้าง blog และเว็บไซต์

ซอฟแวร์ที่ใช้ในการพัฒนา

1.www.bloger.com

2.PhotoScape

ขอบเขต

เนื้อหาภายใน Blog จะประกอบไปด้วย ข้อมูลเกี่ยวกับขนมต่างๆ โดยมีหัวข้อหลักดังนี้

1. มันทอดหลากรส

2. ขนมไทย

3.เครปเค้ก

4. ขนมจากกล้วย

5.คัพเค้ก 

6. โรตีสายไหม

7.ทำขนมกินเองที่บ้านง่ายๆ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. เป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขนมหลากหลายชนิดและวิธีทำ
2.ได้รับความรู้ในการสร้างเว็บ

3.ได้รับความรู้เกี่ยวกับการทำขนมต่างๆ

ทำขนมกินเองที่บ้าน

1. โอรีโอ้ + วิปปิ้งครีม + ไอศกรีม = พายโอรีโอ้ไอศกรีม
            
          พายไอศกรีมมินต์ช็อกโกแลตสูตรนี้เนรมิตมาจากส่วนผสมแค่ 3 อย่าง ได้แก่ แป้งพายที่ทำจากโอรีโอ้ วิปปิ้งครีม และไอศกรีมรสมินต์ช็อกโกแลตชิพ กับวิธีทำง่ายเว่อร์ ๆ สูตรเด็ดแบบนี้ คนรักไอศครีมรสมินต์ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • โอรีโอ้ 2 ห่อ (บดละเอียด กรุลงพิมพ์)

     • วิปปิ้งครีม 18 ออนซ์

     • ไอศกรีรสมินต์ช็อกโกแลตชิพ

วิธีทำ

     • ปั่นผสมไอศกรีมและวิปปิ้งครีมจนเข้ากัน 

     • ตักส่วนสมไอศกรีมใส่ลงในพายโอรีโอ้ที่เตรียมไว้ 

     • นำเข้าแช่แข็งประมาณ 1 ชั่วโมง จนเซตตัว

2. ฮาเซลนัท + ไข่ขาว + น้ำตาลทราย = คุกกี้ฮาเซลนัท
            
          หน้าตาคุกกี้สูตรนี้อาจจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ถ้าได้กัดสักคำรับรองจะติดใจ แถมคุกกี้สูตรนี้ยังไร้แป้ง เพราะทำมาจากถั่วฮาเซลนัท ไข่ขาว น้ำตาล คนที่ห่วงเรื่องน้ำหนักก็กินได้อย่างชิล ๆ

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • ไข่ขาว 1 ฟอง

     • น้ำตาลทราย 80 กรัม (1/3 ถ้วย + 1/2 ช้อนโต๊ะ)

     • ถั่วฮาเซลนัท 100 กรัม (2/3 ถ้วย)

วิธีทำ

     • นำถั่วฮาเซลนัทเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส นานประมาณ 15 นาที จากนั้นนำออกจากเตากระเทาะเอาเปลือกออก พักทิ้งไว้จนเย็น แล้วนำใส่เครื่องปั่น ปั่นจนละเอียด

     • ตีผสมไข่ขาวกับเกลือป่นเล็กน้อยจนขึ้นฟูเป็นเนื้อโฟม จากนั้นเติมถั่วและน้ำตาลทรายลงไป ตีผสมให้เข้ากันอีกครั้ง

     • ใช้ช้อนตักเนื้อคุกกี้วางลงบนแผ่นรองอบ นำเข้าเตาอบ นานประมาณ 30 นาทีจนุกกี้สุกเป็นสีเหลืองทอง นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น พร้อมเสิร์ฟ

3. แป้ง + เนย + น้ำตาลไอซิ่ง = คุกกี้
            
          คุกกี้ผสมบิสกิสเนื้อเนียน กัดแล้วกรุบกรอบทุกคำ หอมเนยกรุ่น ๆ สูตรนี้ได้มาจากแป้งสาลี น้ำตาลไอซิ่ง และเนย แค่นี้เองจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • น้ำตาลไอซิ่ง 1/2 ถ้วย

     • เนยเค็มชนิดแท่ง 2 แท่ง (Real Salted Butter)

     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย

วิธีทำ

     • เปิดเตาอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้

     • ตีผสมน้ำตาลไอซิ่งกับเนยจนเป็นเนื้อครีม ค่อย ๆ ใส่แป้งลงไปตีผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน

     • ม้วนแป้งคุกกี้เป็นท่อนกลม กว้างประมาณ 1/4 นิ้ว ตัดเป็นชิ้น ๆ วางลงบนแผ่นรองอบ นำเข้าเตาอบนานประมาณ 20-25 นาที จนคุกกี้เป็นสีเหลืองทอง

4. แป้งเค้ก + โยเกิร์ต + น้ำส้ม = เค้กส้ม
            
          เพียงแค่ผสมแป้งเค้ก กรีกโยเกิร์ต และน้ำส้มคั้น ให้เข้ากัน นำไปอบอีกนิดหน่อย ก็กลายเป็น Creamsicle Cake เค้กส้มเนื้อนุ่มกลิ่นส้มหอมน่ากินได้ทันที ง่ายไปป่ะ?

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • แป้งสำหรับทำเค้กสำเร็จรูป 1 กล่อง

     • โยเกิร์ตรสธรรมชาติชนิดไร้ไขมัน ขนาด 6 ออนซ์ 1 ถ้วย

     • น้ำส้มคั้นสด 1 ถ้วย

วิธีทำ

     • ใส่แป้งเค้ก โยเกิร์ต และน้ำส้มคั้นลงในอ่างผสม ตีผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นเทลงพิมพ์ 

     • นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮท์ นานประมาณ 30-33 นาที นำออกจากเตา พักทิ้งไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น ๆ โรยน้ำตาลไอซิ่งเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟ

5. เนยถั่ว + ไข่ไก่ + น้ำตาลทราย = คุกกี้เนยถั่ว
            
          คุกกี้เนยถั่วที่แสนอร่อย ไม่ต้องอาศัยส่วนประกอบอะไรมากไปกว่าเนยถั่ว ไข่ไก่และน้ำตาลทราย กลายเป็นของว่าง หรืออาหารเช้าในวันที่เร่งรีบได้สบาย ๆ เลย

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • น้ำตาลทราย 1 ถ้วย

     • เนยถั่ว  1 ถ้วย

     • ไข่ไก่ 1 ฟอง

วิธีทำ

     • เปิดเตาอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮท์ เตรียมไว้

     • คนผสมน้ำตาลทราย เนยถั่ว และไข่ไก่เข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเนียน ตักส่วนผสมวางลงบนแผ่นรองอบ ใช้ส้อมกดบนคุกกี้ให้แบน

     • นำเข้าอบนานประมาณ 12 นาที นำออกจาเตา พักทิ้งไว้จนเย็น แซะออกจากแผ่นรองอบ พร้อมเสิร์ฟ 

7. คุกกี้รสช็อกโกแลต + ครีม + น้ำตาลทราย = ไอซ์บ็อกซ์เค้ก
            
          เมนูเค้กสไตล์ใหม่ที่กินแล้วเย็นชื่นใจ กลมกล่อมไปทั้งปาก อย่างไอซ์บ็อกซ์เค้กก้อนนี้ไม่ได้มีขั้นตอนวุ่นวายสักนิดเลยล่ะ เพียงแค่จับวเฟอร์ช็อกโกแลต วิปปิ้งครีม และน้ำตาลทราย 3 อย่างนี้มาผสมเข้าด้วยกันเท่านั้นเองจ้า

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • ครีมสด

     • น้ำตาลทราย

     • โอรีโอ้

วิธีทำ

     • ตีผสมครีมจนขึ้นฟู

     • นำครีมปาดลงบนคุกกี้แล้ววางคุกกี้ทับ ทำซ้ำเรื่อย ๆ วางเรียงต่อเป็นแนวนอนกันจนครบจำนวนตามต้องการ

     • ปาดครีมที่เหลือเคลือบลงบนคุกกี้ทั้งหมดจนทั่ว จากนั้นห่อด้วยอะลูมิเนียมฟลอยด์ นำเข้าแช่เย็นจนถึงเวลาเสิร์ฟ

8. กล้วย + ไข่ + แป้ง = แพนเค้ก
            
          แพนเค้กกล้วยหอมจอมซนที่ใช้แค่เพียงแป้งมะพร้าว+กล้วยหอม+ไข่ไก่ ก็อร่อยฟินได้แล้ว เหมาะเป็นมื้อเช้าใน
วันที่เร่งรีบมากเลยเนอะ

สิ่งที่ต้องเตรียม

     • กล้วยหอม 3 ลูก

     • ไข่ไก่ 6 ฟอง

     • แป้งมะพร้าว (หรือแป้งสาลีอเนกประสงค์) 1/3 ถ้วย

วิธีทำ

     • ใส่กล้วยหอม ไข่ไก่ แป้ง และเกลือป่นเล็กน้อย ลงในเครื่องปั่น ปั่นผสมจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว

     • ทากระทะด้วยน้ำมันเล็กน้อย นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง ตักส่วนผสมแพนเค้กลงทอดด้านละ 2-4 นาที จนสุกเหลืองทั้ง 2 ข้าง ตักใส่จาน ราดท็อปปิ้งตามชอบ

โรตีสายไหม

โรตีสายไหม

วัสดุอุปกรณ์
1. กระทะ
2. ถาดอลูมิเนียม
3. กระทะแบน
4. กะละมังอะลูมิเนียม, กะละมังพลาสติกใบใหญ่
5. ไม้ดึง 2 อัน
6. น้ำมันบัว
7. แป้งสาลี
8. น้ำตาลทราย
9. น้ำ

วิธีทำสายไหม
1. นำน้ำใส่กระทะตั้งไฟ ใส่น้ำตาล 2 กิโลกรัม เคี่ยวให้เหนียว
2. เทลงกะละมังอะลูมิเนียมใบเล็ก นำไปหล่อน้ำในกะละมังพลาสติกใบใหญ่ ให้จับกันเป็นก้อน
3. นำแป้งสาลีผสมกับน้ำมันบัว กวนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง
4. นำน้ำตาลที่เป็นก้อนมาคลึงรวมกับแป้งสาลีที่ผสมกับน้ำมันบัว ให้เข้ากัน
5. นำน้ำตาลที่ผสมกันแล้ว มาคลึงบนถาดอลูมิเนียม โดยใช้ไม้คลึงทั้งสองด้านให้ได้เป็นเส้นสายไหม
วิธีทำแผ่นโรตี
1. แป้งสาลี น้ำ เกลือ นำมานวดเข้ากันให้เหนียว
2. ทิ้งไว้ประมาณ 2-5 นาที ให้แป้งขึ้น
3. ตั้งกระทะแบนบนเตาไฟ ให้ร้อน
4. นำแป้งที่หมักได้ที่แล้วมาแต้มลงในกระทะแบนเป็นรูปวงกลมเพื่อให้ได้ แผ่นโรตี

คัพเค้กแสนอร่อย

คัพเค้ก

 คัพเค้กสตอเบอร์รี่

คัพเค้กสายรุ้ง

คัพเค้กช็อคโกแลต

คัพเค้กชาเขียว

คัพเค้กส้ม

วิธีทำ

เริ่มจากส่วนผสม
1. แป้งเค้กตราพัดโบก 100   กรัม
2.ผงฟู  ¾      ช้อนชา
3.ไข่ไก่ 170  กรัม
4.น้ำตาลทราย 120  กรัม
5.เกลือ ½     ช้อนชา
6.นมข้นจืด 30   กรัม
7.น้ำ 40   กรัม
8.เนยสดละลาย 70   กรัม
9.เอสพี  10   กรัม
เปิดวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 350 องศาฟาเรนไฮด์ หรือ 180 องศาเซลเซียส แล้วมาเริ่มทำกันเลยค่ะ
1.ร่อนแป้งและผงฟูพักไว้
2.ตีไข่ไก่+น้ำ+น้ำตาลทราย+เกลือ+เอสพี และแป้ง ด้วยความเร็วต่ำ ประมาณ 1 นาที แล้วปาดอ่าง
Tips : สิ่งที่เราต้องการคือ ให้ส่วนผสมที่เป็นของแห้งพอจะผสมเข้ากับส่วนของเหลว การปาดอ่างจะช่วยให้ส่วนของแห้งที่ยังไม่เปียกตามขอบๆผสมเข้ากับส่วนอื่นๆได้ดีขึ้น

3.ตีต่อด้วยความเร็วปานกลาง ประมาณ 5 นาที แล้วลดเป็นความเร็วต่ำ ประมาณ 1 นาที แล้วเติมนมข้นจืดและเนยสดละลาย ผสมให้เข้ากัน รอจนเนยเข้ากับส่วนผสมหมด มองไม่เห็นรอยแล้วปิดเครื่อง(ระหว่างนั้นใช้ความเร็วต่ำตลอด)
Tips 1 : ก่อนจะเติมนม+เนย ส่วนผสมจะต้องเข้ากันดีจนขึ้นข้นขาว คือ ส่วนผสมข้นจนถึงที่เราเรียกว่า ribbon stage เป็นสีขาว และฟูขึ้นจากเดิมประมาณ 2-3 เท่า
Tips 2 : เติมกลิ่นวานิลา หรือ กลิ่นนมเนยลงในนมข้นจืด ช่วยดับกลิ่นคาวของไข่ และเนยควรละลายให้เหลวหมด อย่าให้เหลือส่วนที่ยังแข็งแล้วมาคนให้เข้ากัน และไม่ควรปล่อยให้เดือดปุดๆ เทขณะที่เนยยังร้อนแต่ไม่ร้อนจัด(นิ้วจิ้มดูแล้วร้อนค่อนข้างมากแต่ทนได้)

4.นำเข้าอบใช้ไฟล่างมากกว่าไฟบน หรือ ไฟล่างอย่างเดียว ประมาณ 12-15 นาที เช็คสุกโดยใช้ไม้จิ้มถ้าเนื้อขนมไม่เปียกติดไม้เป็นอันใช้ได้ นำมาพักบนตะแกรงรอให้เย็นแล้วแต่งหน้า
Tips : ไม่ควรเปิดเตาดูขนมบ่อยๆ ถ้าไม่แน่ใจ รอจนเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีค่อยเปิดดู สังเกตที่หน้าขนม ถ้าสุกแล้วจะแห้ง แล้วใช้ไม้ลองจิ้มลงไปลึกๆดู
ส่วนผสมบัตเตอร์ครีมสำหรับแต่งหน้าเค้ก
1.เนยสดเค็ม 225   กรัม
2.เนยขาว 150   กรัม
3.น้ำตาลทราย 300    กรัม
4.เกลือ 7    กรัม (ถ้าเป็นเกลือป่นให้ลดลงครึ่งหนึ่ง)
5.นมข้นจืด 75   กรัม
6.น้ำ 90   กรัม
วิธีทำ

1.เทรวมน้ำตาลทราย+เกลือ+นมข้นจืด และน้ำลงในภาชนะ แล้วตั้งไฟคนให้น้ำตาลละลายหมด แล้วยกลง ปล่อยไว้ให้เย็น

2.หั่นเนยสดเป็นชิ้นเล็กๆใส่โถตีพอนุ่ม แล้วใส่เนยขาวลงไปตีจนขึ้นฟูเบา(อาจปาดอ่างช่วยถ้าเนยไม่ค่อยเข้ากันดี)ใช้ความเร็วปานกลางนานประมาณ 30 นาที
3.ปรับเป็นความเร็วต่ำ แล้วเติมน้ำเชื่อมที่ทิ้งไว้จนเย็นแล้ว ตีต่ออีกประมาณ 5 นาที ปิดเครื่อง

แบ่งครีมเพื่อเติมสีตามชอบ คนจนเป็นสีเดียวกันและเนียน
นำไปแต่งหน้าตามชอบใจ ใส่ความเป็นคุณให้เต็มที่ ขอให้สนุกกับการทำขนมและมีความสุขในวันวาเลนไทนืที่จะมาถึงค่ะ

ขนมกล้วย ๆ

กล้วย กล้วย

กล้วยแขกทอด

กล้วยไข่เชื่อม

กล้วยปิ้ง