วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2560

แบบสอบถาม

สังขยาฟักทอง

สังขยาฟักทอง


ส่วนผสม สังขยาฟักทอง

           ฟักทองลูกเล็ก 1 ลูก
           ไข่ไก่ 8 ฟอง
           น้ำตาลปี๊บ 100-200 กรัม (ปรับเพิ่ม-ลดตามชอบ)
           หัวกะทิ 1 ถ้วย
           ฝอยทอง (สำหรับหยอดหน้า)


วิธีทำสังขยาฟักทอง


            1. ใช้มีดเจาะไปที่ขั้วฟักทองออกให้เป็นฝา จากนั้นคว้านเอาไส้ออกจนหมดแล้วนำไปล้างให้สะอาด เตรียมไว้

            2. ผสมไข่ไก่กับน้ำตาลปี๊บ และหัวกะทิให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว นำไปกรองผ่านตะแกรง จากนั้นเทใส่ลงในผลฟักทอง โรยฝอยทองด้านบน

            3. ใส่ลูกฟักทองลงชามกระเบื้องขนาดพอดีกัน จากนั้นนำไปนึ่งชุดนึ่งที่มีน้ำเดือด นานประมาณ 30-40 นาที หรือจนฟักทองสุก ยกออกจากชุดนึ่ง พักไว้จนเย็น ตัดเป็นชิ้น พร้อมรับประทาน

          

เครปโรลฝอยทอง

เครปโรลฝอยทอง


ส่วนผสม เครปโรลฝอยทอง
     • ไข่ไก่ 4 ฟอง
     • นมสด 300 กรัม
     • เนยละลาย 60 กรัม
     • เกลือ 1/2 ช้อนชา
     • น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
     • กลิ่นวานิลลา
     • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 130 กรัม
     • วิปปิ้งครีม 200 กรัม
     • น้ำตาลไอซิ่ง 20 กรัม
     • ฝอยทอง

วิธีทำเครปโรลฝอยทอง

เครปโรลฝอยทอง

     • ตีไข่ไก่พอแตก ใส่นม เนยละลาย เกลือ น้ำตาลทราย และกลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน ใส่แป้งสาลีอเนกประสงค์ลงไป คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

เครปโรลฝอยทอง

     • กรอง 1 รอบ ให้เนียน

เครปโรลฝอยทอง

     • ตั้งกระทะเตรียมทอด ทาเนยบาง ๆ ก่อนทอด ทอดด้วยไฟอ่อน 

เครปโรลฝอยทอง

     • ทอดเสร็จแล้ว พักไว้ให้เย็น

เครปโรลฝอยทอง

     • ใช้ตะกร้อมือตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟู

เครปโรลฝอยทอง

     • วางแป้งแล้วใส่วิปครีมเยอะ ๆ ใส่ฝอยทอง แล้วห่อง่าย ๆ พับด้านข้างแล้วม้วนไปจนสุด 

เครปโรลฝอยทอง

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2560

วุ้นชวนอุ่นใจ

วุ้น



1. วุ้นลูกแก้วผลไม้สด

          ผงวุ้นที่ซื้อเก็บไว้ก็เอามาทำวุ้นน้ำเขียว วุ้นน้ำแดง รวมถึงวุ้นแมงลักไปหลายคราแล้ว ถ้าหากวันนี้ว่าง ๆ ลองเปลี่ยนแนวมาทำเมนูวุ้นลูกแก้วผลไม้สดสูตรจากคุณ Rin's Cookbook (#rinscookbook)จุดเด่นคือ ใส่ผลไม้สดลงไปในเนื้อวุ้นลูกกลม ๆ กินเปล่า ๆ ก็เพลินดี หรือจะราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานลงไปก็เก๋ค่ะ ผลไม้พร้อม ผงวุ้นพร้อม แต่ผู้ช่วยล่ะ ขอตัวไปงัดคุณแฟนขึ้นมาจากเตียงก่อนนะคะ 

ส่วนผสม วุ้นลูกแก้วผลไม้สด

          • น้ำเปล่า 2 ถ้วย + 3/4 ถ้วย
          • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ
          • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
          • กลิ่นผลไม้ เช่น กลิ่นสตรอว์เบอร์รี (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 2-3 หยด
          • น้ำเชื่อม หรือน้ำหวาน (ตามชอบ)

อุปกรณ์

          • พิมพ์ลูกบอลกลม (หาซื้อตามร้านขายสินค้าญี่ปุ่น)

วิธีทำวุ้นลูกแก้วผลไม้สด


          • 1. ใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ โรยผงวุ้นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที

          • 2. นำหม้อส่วนผสมวุ้นขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างสูง พอเริ่มเดือดให้ปรับเป็นไฟกลางแล้วใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน (พยายามคนวุ้นไปทิศทางเดียวกันและหมั่นช้อนฟองทิ้ง) พอวุ้นเริ่มจะเดือดอีกครั้งให้ปรับเป็นไฟอ่อน ต้มต่อประมาณ 10 นาที ปิดไฟ

          • 3. นำส่วนผสมวุ้นไปกรองด้วยกระชอนตาถี่ พักทิ้งไว้ประมาณ 5-7 นาที เพื่อให้วุ้นอุ่น 

          • 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงไปในพิมพ์ประมาณ 1 ช้อนชา (ขึ้นอยู่กับขนาดของพิมพ์) ใส่ผลไม้ตามลงไป เทส่วนผสมวุ้นที่เหลือลงไปในพิมพ์จนถึงขอบพิมพ์ (วุ้นต้องไม่ร้อนจนเกินไปเพราะผลไม้จะสุกได้) 

          • 5. ปิดฝาพิมพ์ ทับด้วยจาน หรือเขียง (หรือวัสดุที่หนัก ๆ) พักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที เพื่อให้วุ้นเซตตัว 

          • 6. แกะวุ้นผลไม้สดออกจากพิมพ์ นำไปแช่ตู้เย็นจนเย็นจัด จัดใส่ภาชนะ เสิร์ฟพร้อมน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานตามชอบ 

        2. วุ้นกะทิดอกไม้

          เมนูวุ้นกะทิเป็นอันดับต้น ๆ ของเมนูวุ้นคลายร้อนที่นึกถึงเลยนะคะ แม้จะหากินง่ายแต่ถ้าทำเองสามารถใส่สีได้ตามชอบ และเนรมิตเป็นรูปต่าง ๆ ได้ดั่งใจ ใครสนใจอยากทำวุ้นกะทิง่าย ๆ ในวันหยุดนี้มาจดสูตรได้เลยค่ะ  

ส่วนผสม วุ้นกะทิ


          • น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
          • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ
          • น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
          • หัวกะทิ 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
          • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา

ส่วนผสม วุ้นสี

          • น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
          • ผงวุ้น 1 ช้อนชา
          • น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
          • สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา

อุปกรณ์

          • พิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้

วิธีทำวุ้นกะทิ


          • 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด 

          • 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด 

          • 3. เทหัวกะทิกับเกลือป่นใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ยกลงจากเตา หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์ซิลิโคนประมาณ 1/2 ของพิมพ์ พักทิ้งไว้จนเซตตัว

          • 4. ทำวุ้นสีโดยใส่น้ำเปล่าและผงวุ้นลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟคนให้ละลาย ใส่ใบเตยลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนผสมจนน้ำตาลละลายและมีกลิ่นใบเตย จากนั้นตักใบเตยทิ้ง 

          • 5. ใส่สีผสมอาหารลงไปคนผสมให้เข้ากัน พอเดือดแล้วปิดไฟ ยกลงจากเตา นำไปหยอดลงบนวุ้นกะทิที่เซตตัวแล้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ พักทิ้งไว้จนคลายความร้อน นำไปแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ 

          เคล็ดลับ : เมื่อวุ้นชั้นแรกเริ่มเซตตัวแล้ว ให้ตักวุ้นชั้นต่อไปใส่ได้เลยไม่ต้องรอให้วุ้นแข็งตัว เพราะจะทำให้ชั้นของวุ้นไม่ติดกัน
3. วุ้นเป็ด

          วุ้นกะทิมะพร้าวอ่อนที่คุ้นเคยเป็นทรงกลม หรือสี่เหลี่ยม ณ ตอนนี้ได้กลายร่างเป็นวุ้นเป็ดก๊าบ ๆ แล้วจ้า แหม… ดูน่ารักน่าเอ็นดูเชียว ถ้าอยากสร้างความต่างก็จับใส่สีได้ตามชอบอีกต่างหาก ใครสนใจอยากทำวุ้นเป็ดไปซื้อพิมพ์มาเตรียมให้พร้อมนะคะ 

ส่วนผสม วุ้นเป็ด

          • น้ำเปล่า 350 มิลลิลิตร
          • ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ + 1/2 ช้อนโต๊ะ
          • หัวกะทิคั้นสด 2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
          • ใบเตย (หั่นเป็นท่อน) 2-3 ใบ
          • น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
          • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
          • เนื้อมะพร้าวอ่อน

อุปกรณ์


          • พิมพ์วุ้นเป็ด

วิธีทำวุ้นเป็ด


          • 1. ทำวุ้นกะทิโดยใส่น้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟพอร้อน จากนั้นใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย พอน้ำเดือดแล้วให้ปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ จนผงวุ้นละลายหมด

          • 2. เปิดไฟ ใส่ใบเตยลงไป กวนไปเรื่อย ๆ ให้พอมีกลิ่นใบเตย ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว คนผสมจนน้ำตาลละลายและส่วนผสมเดือด

          • 3. เทหัวกะทิใส่ลงไปคนผสมให้เข้ากันพอเดือดเล็กน้อย ปิดไฟ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น ๆ ลงไป คนพอเข้ากัน ยกลงจากเตา

          • 4. หยอดส่วนผสมวุ้นลงในพิมพ์วุ้นเป็ดจนเต็ม พักทิ้งไว้จนวุ้นเริ่มเซตตัวและคลายความร้อน จากนั้นนำไปแช่เย็น นำออกจากพิมพ์ก่อนเสิร์ฟ
4. วุ้นมะพร้าวอ่อนราดซอสนมสด
 
          เป็นเหมือนกันไหม ? ซื้อวุ้นมะพร้าวอ่อนมาแต่กัดไปไม่เจอเนื้อมะพร้าวอ่อนเลย แถมยังรสชาติหวานแสบคอ ถ้าหากไม่ได้ดั่งใจก็ทำกินเองเลยดีกว่าเนอะ พบกับเมนูวันมะพร้าวอ่อน ขนมคลายร้อน จุดเด่นอยู่ที่ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนและเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปผสมกับกะทิด้วยล่ะ นอกจากนี้ยังเพิ่มความฟินอีกระดับด้วยน้ำราดหวานหอม อูย… อร่อยจนลืมอ้วนก็คราวนี้

ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน


          • น้ำตาลทราย 90 กรัม
          • ผงวุ้น 2 ช้อนชา
          • น้ำเปล่า 350 กรัม
          • น้ำมะพร้าว 350 กรัม
          • กะทิ 120 กรัม
          • เนื้อมะพร้าวอ่อน 200 กรัม

ส่วนผสม ซอสนมสด (สำหรับราด)

          • นมสดรสจืด 1/2 ถ้วย
          • นมข้นจืด 1/2 ถ้วย
          • นมข้นหวาน (ปริมาณตามชอบ)

วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน


          • 1. ทำวุ้นมะพร้าวโดยเทน้ำตาลทรายและผงวุ้นใส่ลงในอ่างผสม คนให้เข้ากัน พักไว้

          • 2. ใส่น้ำเปล่าและน้ำมะพร้าวลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟแล้วเทส่วนผสมวุ้นลงไปคนให้เข้ากันจนเดือด จากนั้นปิดไฟแล้วคนต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ผงวุ้นละลาย

          • 3. เทกะทิลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนเบา ๆ ตักใส่ภาชนะ นำไปแช่เย็นเพื่อให้วุ้นเซตตัวเร็วขึ้น

          • 4. ทำซอสสำหรับราดด้านบนโดยผสมนมสด นมข้นจืด และนมข้นหวานเข้าด้วยกัน ตักราดลงไปบนวุ้นมะพร้าวอ่อนที่เซตตัวแล้ว พร้อมเสิร์ฟ หรือนำเข้าแช่เย็นอีกครั้งก่อนเสิร์ฟ
5. วุ้นมะพร้าวอ่อนในลูกมะพร้าว

          วุ้นมะพร้าวอ่อนทั่วไปกินไม่จุใจเพราะชิ้นเล็ก แถมมะพร้าวอ่อนก็ยังน้อยนิด ถ้าอยากกินแบบจัดเต็มขอแนะนำวุ้นในลูกมะพร้าวสูตรจากคุณ RinS CookBook (#rinscookbook) สูตรนี้ใส่ผงวุ้นไม่เยอะ ใช้น้ำมะพร้าวล้วน ๆ ไม่ใส่น้ำเปล่า เนื้อวุ้นจะออกนิ่ม ๆ หน่อย ผสมผสานกับเนื้อมะพร้าวเต็ม ๆ จับไปแช่เย็นหน่อย อูย… เห็นแล้วน้ำลายสอ  

ส่วนผสม วุ้นมะพร้าวอ่อน

          • ผงวุ้น 1 ช้อนชา + 1/2 ช้อนชา (ไม่ใส่เยอะเพื่อต้องการให้วุ้นไม่แข็งเกินไป)
          • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
          • มะพร้าวอ่อน 1 ลูก

วิธีทำวุ้นมะพร้าวอ่อน


          • 1. เฉาะมะพร้าวออกแล้วเทน้ำมะพร้าวลงในหม้อ ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน

          • 2. ใช้ช้อน (หรือที่ขูด) ขูดเนื้อมะพร้าวออกมาจากตัวมะพร้าว (แต่ไม่ใช้เนื้อตรงฝาจะได้มีไว้ด้านบนให้สวย ๆ) เตรียมไว้

          • 3. ใส่ผงวุ้นลงไปในน้ำมะพร้าวคนให้เข้ากัน ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง คอยคนส่วนผสมตลอดเวลาเพื่่อไม่ให้ติดก้นหม้อ รอให้เดือด ปิดไฟ เทกลับลงไปในลูกมะพร้าว เติมเนื้อมะพร้าวลงไป นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนวุ้นเซตตัว พร้อมเสิร์ฟ
6. วุ้นสำรองลอยแก้ว

          สำหรับสาว ๆ ที่อยากลดพุงแต่ก็อยากกินขนมหวานใจจะขาด มามะมากินเมนูวุ้นสำรองลอยแก้วกันดีกว่าค่ะ เพราะสรรพคุณลูกสำรองนอกจากช่วยระบายแล้วยังช่วยดูดจับไขมัน และชำระล้างไขมันที่อยู่ในลำไส้ให้ออกมา และที่สำคัญทำให้อิ่มท้อง เอาล่ะ… ถ้าสนใจขอแนะนำสูตรจากนิตยสาร Food News & Life นอกจากได้กินวุ้นสำรองแล้วยังเพิ่มฟรุตค็อกเทลและเชอร์รีแดงลงไปอีกด้วย น่าหม่ำจังเลยเนอะ

ส่วนผสม วุ้นสำรองลอยแก้ว

          • ลูกสำรอง 10 ลูก
          • น้ำเปล่า 1 ลิตร
          • น้ำตาลทรายแดง 3 ช้อนโต๊ะ
          • ผงวุ้น 2 ช้อนชา
          • ฟรุตค็อกเทลกระป๋อง (สำหรับเสิร์ฟ)
          • เชอร์รีเชื่อม (ตกแต่ง)
          • น้ำแข็ง (สำหรับเสิร์ฟ)
 
วิธีทำวุ้นสำรองลอยแก้ว

          • 1. ล้างลูกสำรองให้สะอาด ตัดหัว แช่ทิ้งไว้ในน้ำอุ่นจนพองตัวเป็นวุ้น จากนั้นลอกเปลือกออกจนหมด

          • 2. ต้มเนื้อสำรองกับน้ำจนเดือดพักไว้จนเย็นสนิท

          • 3. ใส่น้ำสำรอง น้ำตาลทรายแดง และผงวุ้นในหม้อนำขึ้นตั้งไฟจนเดือด เทลงพิมพ์ พักไว้จนวุ้นเซตตัวดี นำเข้าตู้เย็น

          • 4. ก่อนเสิร์ฟใส่ฟรุตค็อกเทลกระป๋องและเชอร์รีแดง เติมน้ำแข็ง 

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

ICE CREAM

ไอติมกะทิ


ส่วนผสม

          1. กะทิกล่อง หรือกะทิกระป๋องสูตรเข้มข้น ขนาด 560 มิลลิลิตร    
          2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
          3. เกลือ ¾ ช้อนชา
          4. ไข่ไก่ 1 ฟอง
          5. เนื้อมะพร้าวอ่อนขูดเป็นเส้น (มีหรือไม่มีก็ได้)


วิธีทำ

1. เทกะทิทั้งหมด ผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วย หรือถ้ามีน้ำมะพร้าว ก็ให้ใช้น้ำมะพร้าว กับน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วย เพื่อเพิ่มความหอมหวานของกะทิมากขึ้น  
2. นำกะทิไปตั้งไฟ แล้วค่อย ๆ เทน้ำตาลทรายผสมลงไป จากนั้นคนให้เข้ากันจนกะทิเดือด 
3. นำกะทิมาพักให้เย็น จากนั้นเทใส่ภาชนะที่เหมาะกับการแช่เย็น

4. นำภาชนะดังกล่าวไปแช่ในช่องแข็ง จนกะทิเริ่มแข็งตัว 
5. ในการแช่กะทิ ให้สังเกตุว่ากะทิเริ่มเป็นเกล็ดหรือยัง หากเริ่มเย็นจนเป็นเกล็ดแล้ว สามารถนำออกจากตู้เย็น โดยไม่ต้องรอให้กลายเป็นน้ำแข็ง ซึ่งขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานานพอสมควร
6.นำกะทิดังกล่าวมาปั่น หากไม่มีเครื่องปั่นสำหรับทำไอศกรีม สามารถใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้ธรรมดาแทนได้ค่ะ

ปั่นครั้งที่ 1
นำกะทิใส่เครื่องปั่น และปั่นจนกว่าเนื้อไอศครีมจะละเอียด จากนั้นนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ

ปั่นครั้งที่ 2
เมื่อเนื้อไอครีมที่ปั่นรอบแรกเริ่มเป็นน้ำแข็ง ก็ให้นำออกมาปั่นใหม่อีกครั้ง โดยคราวนี้ให้ใส่ไข่ขาวลงไป 1 ฟอง เมื่อเครื่องปั่นตีกะทิกับไข่ขาวจนเข้ากันแล้ว จะเห็นว่าเนื้อไอศครีมขาว และฟูขึ้น จากนั้นจึงนำไปแช่ในช่องแข็งอีกรอบ
 ปั่นครั้งที่ 3

นำไอศกรีมที่แช่จนเป็นเกร็ดแล้วมาปั่นอีกรอบ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเนียนฟูมากยิ่งขึ้น หากใครชอบทานไอศกรีมกะทิ แบบมีเนื้อมะพร้าวด้วย ให้นำเนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราขูดไว้ มาผสมกับไอศกรีมกะทิที่ปั่นในรอบที่สาม แต่ในครั้งนี้ควรปั่นเพียงเล็กน้อยพอให้เนื้อมะพร้าวเข้ากันค่ะ หรือจะปั่นรอบที่สามให้เสร็จก่อน แล้วค่อยใส่เนื้อมะพร้าวแล้วปั่นอีกนิดก็ได้ค่ะ
 เพียงแค่นี้ เราก็จะได้ไอศกรีมกะทิแสนอร่อย เอาไว้ทานเพื่อคลายร้อนกันแล้วล่ะ...อ้อ เคล็ดลับความอร่อยของไอศกรีมกะทิจะอยู่ที่การปั่นเนื้อไอศกรีมให้ละเอียด ยิ่งปั่นหลายรอบ เนื้อไอศกรีมก็จะยิ่งเนียนฟูมากขึ้น แต่วิธีที่เรานำมาฝากนี้จะเป็นแบบเร่งรัดจ้า

ชีสทาร์ต



ส่วนผสมแป้งทาร์ต
  • แป้งสาลี 127 กรัม
  • เนยเค็ม 100 กรัม
  • น้ำตาลไอซิ่ง 2 ช้อนโต๊ะ
  • ไข่แดง 1 ฟอง
  • น้ำเปล่า (เย็น) 1ช้อนโต๊ะ
  • เตรียมแม่พิมพ์วงกลมสำหรับกรุแป้งทาร์ตส่วนผสมของชีส
    • มอสซาเรลล่า ชีส 50 กรัม
    • ชีสมาสคาร์โปเน่ 100 กรัม
    • ครีมชีส 100 กรัม
    • นม 150 มิลลิลิตร
    • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
    • วานิลลา 1 ช้อนชา
    วิธีทำแป้งทาร์ต
    1. ผสมแป้งสาลี เกลือ และ น้ำตาลไอซิ่ง ในชามผสม คนให้เข้ากัน
    2. ใส่เนยตามลงไป ใช้พายยางคนให้เนยแตกเป็นก้อนเล็กๆ ตามด้วยไข่แดงและน้ำเย็น
    3. นวดจนแป้งได้ที่ ห่อแป้งด้วยแผ่นพลาสติกแรป แช่ตู้เย็น 30 นาที
    วิธีทำชีสทาร์ต
    1. เปิดเตาอบรอไว้ก่อนที่ 190 องศสเซลเซียส
    2. นำแป้งออกจากตู้เย็น คลึงแป้งให้หนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร ระหว่างคลึงให้โรยแป้งสาลีไปด้วย
    3. ตัดแป้งให้เป็นวงกลม ให้ขนาดใหญ่กว่าแม่พิมพ์ เผื่อพื้นที่ด้านข้างของแม่พิมพ์ เวลากดแป้งใส่พิมพ์จะได้ไม่เล็กเกินไป ใช้ถ้วยที่มีอยู่ในครัวตัดแป้งก็ได้นะคะ กะขนาดเอา
    4. กรุแป้งที่ตัดวงกลมลงในแม่พิมพ์ กดให้เป็นตามรูปทรงของแม่พิมพ์ และใช้ไม้แหลมจิ้มให้ทั่ว
    5. นำเข้าเตาอบ 8 นาที แล้วนำออกมาทิ้งไว้ให้เย็น ระหว่างนั้นก็หันมาทำชีส
    6. นำนมใส่หม้อต้มด้วยไฟอ่อน ตามด้วยส่วนผสมของชีส น้ำผึ้ง วานิลลา เคี่ยวจนทุกอย่างเข้ากันดี
    7. เทชีสลงในแป้งทาร์ตปริมาณ 3/4 ของแป้งทาร์ต ลดความร้อนของเตาอบให้เหลือ 150 องซาเซลเซียส นำชีสทาร์ตเข้าเตาอบ 5 นาที
    8. เมื่ออบจนได้เวลาแล้ว นำทาร์ตออกมา วางทิ้งไว้สักพักให้ทาร์ตเย็นตัวลงแล้วค่อยๆ แกะแม่พิมพ์ออก แค่นี้ก็ได้ทาร์ตพร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ

สลัดผลไม้

ลองมาดูกันนนนน


สลัดผลไม้แบบดั้งเดิม

  • สตอเบอร์รี่ 1 ถ้วย (140 กรัม)
  • เชอร์รี่ 1 ถ้วย (140 กรัม)
  • บลูเบอร์รี่ 1/2 ถ้วย (70 กรัม)
  • แอปเปิ้ลแดง 1/2 ลูก
  • พีช 1/2 ลูก
  • กีวี่ 1 ลูก
  • น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มล.)